วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ประโยชน์ของดนตรี

 ประโยชน์ของดนตรี
ประโยชน์ทั่วไป
         1. เสียงดนตรีเป็นสิ่งที่กล่อมหัวใจของคนให้อ่อนโยน เยือกเย็นดับทุกข์ได้ชั่วขณะ ปลุกใจให้รื่นเริงกล้าหาญ สิ่งเหล่านี้ย่อมเกิด แก่บุคคลผู้ฟังทั่วๆไป 
         2. เป็นเครื่องที่ทำให้โลกครึกครื้น
         3. การแสดงมหรสพต่างๆ เป็นต้นว่า โขนละคร ดนตรีก็เป็นผู้ประกอบให้น่าดูสนุกสนานขึ้นสมอารมณ์ผู้ดูและผู้แสดง
         4. ทำความสมบูรณ์ให้แก่ฤกษ์และพิธีต่างๆ ทั้งของประชาชนและของชาติ
         5. เป็นเครื่องประกอบในการสงคราม ซึ่งเคยใช้ได้ผลมาแล้วหลายชาติ กล่าวโดยเฉพาะชาติไทยคราวสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬา โลก เมื่อยังดำรงพระยศเป็นเจ้าพระยาจักรีทรงรักษาเมืองพิษณุโลกต่อสู้ อะแซหวุ่นกี้ ก็ได้ทรงใช้ดนตรีเป็นเครื่องประกอบอุบาย เป็นต้น
         6. ทำให้โลกเห็นว่าชาติไทยมีวัฒนธรรมเป็นอันดี ชาติใดที่มีวัฒนธรรมของตนอยู่อย่างดีย่อมเป็นที่ยกย่องของชาติทั้งหลาย
  ประโยชน์เฉพาะผู้บรรเลง
         1. ได้ชื่อว่าเป็นผู้ทำประโยชน์ทั่วไปดังกล่าวมาแล้ว 
         2. เป็นอาชีพในทางที่ชอบอันหนึ่ง
         3. เป็นผู้รักษาและเผยแพร่วัฒนธรรมของชาติ
         4. จะเป็นผู้มีอารมณ์เยือกเย็น สุขุมกว่าปกติ
         5. มีเครื่องกล่อมตนเองเมื่อยามทุกข์ ปลุกตนเองเมื่อยามเหงา
         6. เป็นเครื่องฝึกสมองอยู่ในตัว
         7. จะเป็นผู้มีเกียรติยศชื่อเสียงปรากฏแก่โลก
         8. ทำการสมาคมให้กว้างขวางได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ชั้นต่ำจนถึงชั้นสูงสุด


ประเภทของวงดนตรีสากล


ประเภทของวงดนตีสากล


ประเภทของวงดนตรีสากล แบ่งได้เป็น 8 ประเภทใหญ่
1.วงแชมเบอร์มิวสิค (Chamber  Music) หมายถึงวงดนตรีประเภทบรรเลงด้วย
เครื่องดนตรีที่เหมาะสำหรับแสดงภายในห้องโถง ที่จุผู้ฟังได้เพียงจำนวนน้อย 
จำนวนผู้บรรเลง      2    คน       เรียกว่า    ดูโอ  (Duo)
จำนวนผู้บรรเลง      3    คน       เรียกว่า    ตริโอ  (Trio)
จำนวนผู้บรรเลง      4    คน       เรียกว่า    ควอเตท (Quartet)
จำนวนผู้บรรเลง      5    คน       เรียกว่า    ควินเตท (Quintet)
จำนวนผู้บรรเลง      6    คน       เรียกว่า    เซกซ์เตท (Sextet)
จำนวนผู้บรรเลง      7    คน       เรียกว่า    เซปเตท (Septet)
จำนวนผู้บรรเลง      8    คน       เรียกว่า    ออกเตท (Octet)
จำนวนผู้บรรเลง      9    คน       เรียกว่า    โนเนท (Nonet)

การเรียกชื่อจะต้องบอกชนิดของเครื่องและจำนวนของผู้เล่นเสมอ เช่น
สตริงควอเตท (String Quartet)  มี   ไวโอลิน 2 คัน วิโอลา 1 คัน แล ะเชลโล 1 คัน
สตริงควินเตท (String Quintet)  มี ไวโอลิน 2 คัน วิโอลา1คัน เชลโล 1 คันและดับเบิลเบส 1คัน
วูดวินควินเตท(Wood -Wind Quintet)ประกอบด้วย เครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมไม้ 5คน
ได้แก่ฟลุ๊ต ปี่โอโบ คลาริเน็ต บาสซูน และเ ฟรนซ์ฮอร์น       
แชมเบอร์มิวสิคยังไม่จำกัดประเภทของเครื่องดนตรี แต่ตระกูลไวโอลินจะเหมาะที่สุด เพราะเสียงของเครื่องดนตรีตระกูลนี้กลมกลืนกัน
แชมเบอร์มิวสิคยังไม่จำกัดประเภทของเครื่องดนตรี แต่ตระกูลไวโอลินจะเหมาะที่สุด เพราะเสียงของเครื่องดนตรีตระกูลนี้กลมกลืนกัน 
ในดินแดนแถบลุ่มแม่น้ำไรน์และได้รับการปรับปรุงอีกครั้งในสมัยของไฮเดินและก็เจริญมาเป็นลำดับ
2.วงซิมโฟนี  ออร์เคสตร้า ( Symphony  Orchestra) วงประเภทนี้มีขนาดใหญ่ ประกอบด้วย
เครื่องดนตรีครบทุกกลุ่ม  ขนาดของวงมีขนาดเล็ก 40-60 คนขนาดกลาง 60-80 คนและวงใหญ่  80-110 คน
หรือมากกว่านั้น ขนาดของวงจะใหญ่หรือเล็กขึ้นอยู่กับเครื่องสายเป็นหลัก และ ผู้เล่นต้องมีฝีมือดี
รวมถึงวาทยากร(conductor)ก็ต้องมีความสามารถอย่างยอดเยี่ยม
ถ้าใช้เฉพาะเครื่องสายของวง Symphony  Orchestra ก็เรียกว่า String Orchestra
3.วงป๊อปปูลามิวสิค (Popular  Music) หรือวงดนตรีลีลาศ ใช้บรรเลงตามงานรื่นเริงทั่วไป
4.วงคอมโบ (Combo  band) หรือสตริงคอมโบ เป็นวงที่เอาเครื่องดนตรีบางส่วนมาจาก  Popular  Music 
อีกทั้งลักษณะของเพลงและสไตล์การเล่นก็เหมือนกัน  จำนวนเครื่องดนตรีส่วนมากอยู่ระหว่างประมาณ  3 –10 ชิ้น
5. วงชาร์โด (Shadow) เป็นวงดนตรีขนาดเล็ก เริ่มก่อตั้งเมื่อประมาณ  20 ปีมานี่เองในอเมริกา
วงดนตรีประเภทนี้ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือคณะThe Beattle หรือสี่เต่าทอง
6. วงดนตรีแจ๊๊ส  เป็นวงดนตรีขนาดเล็ก ใช้เครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าเป็นหลัก 
เกิดขึ้นครั้งแรกที่เมือง นิวออร์ลีน ประเทศสหรัฐอเมริกา 
ลักษณการบรรเลง จะใช้ครื่องดนตรีแต่ละชนิดบรรเลงโต้ตอบกันโดยมีทำนองสั้นๆ 
Blues Jazz เพลงบลูส์ เป็นเพลงเก่าแก่ของ แจ๊๊ส มาจากเพลงสวดอันโหยหวลของพวกนิโกร เพลงบลูส์มีอายุร่วม100 ปี 
Swing  แบบนี้กู๊ดแมน เป็นผู้ให้กำเนิดจังหวะนี้  เมื่อก่อนกู๊ดแมนเล่นคลาริเน็ทกับพวกผิวดำ
ต่อมาได้แยกออกมาเล่นกับพวกผิวขาวด้วยกัน
และเขาได้แต่งเพลงใหม่ขึ้น และได้ให้ชื่อเพลงใหม่นี้ว่า Swing    
Rock n’ Roll  ก็แตกแขนงจาก แจ๊๊ส เมื่อราว พ.ศ. 2493  ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่วัยรุ่นและแพร่หลายอย่างรวดเร็วในอเมริกา
ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชาเพลงร๊อคก็คือ  เอลวิส  เพรสลี่ (เสียชีวิตเมื่อ ส.ค. 2520)    
7.วงโยธวาทิต  (Military  Band) ประกอบด้วยเครื่องเป่าครบทุกกลุ่ม  คือ  เครื่องลมไม้  
เครื่องทองเหลืองและกลุ่มเครื่องกระทบ  ได้แก่เครื่องดนตรีที่ให้จังหวะทั้งหลาย 
วงโยธวาทิตมีมาตั้งแต่สมัยโรมันใช้บรรเลงเพลงเดินแถวเพื่อปลุกใจทหารในสมัยสงครามครูเสด
8.แตรวง  (Brass  Band) คือวงที่ประกอบด้วยเครื่องดนตรีประเภทเครื่องทองเหลืองและเครื่องกระทบ
แตรวงเหมาะสำหรับใช้บรรเลงกลางแจ้ง การแห่ต่างๆ เช่น ในประเทศไทยใช้แห่นาค  แห่เทียนพรรษา



เปียนโนสุดซึ่ง


รับชมและรับฟังเพลงเพราะๆจากเปียนโน



เพลง  ไกลแค่ไหนคือใกล้  Getsunova





เพลง  ของขวัญ  Musketeer





เพลง  ลูกอม  วัชรวลี





เพลง  แอบชอบ   ละอองฟอง





เพลง  รักไม่ต้องการเวลา  Klear


ฟินกันไปตามๆกันเลยใช่มั้ยค่ะ  สำหรับทุกบทเลงที่นำมาฝาก  ทั้งไพเราะ  ฟังแล้วซึ้งเอาถึงอารามณ์เพลง   เข้ามาฟังกันเยอะๆนะคะ



ออร์เคสตาร์ฝีมือวัยรุ่นไทย



ฤดูที่แตกต่าง ver.seasons change orchestra




เพราะสุดๆ  วีดีโอภาพยนตร์เรื่อง SEASONS  CHANGE

โน๊ตเพลงต่างๆ






















วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เล่นเพราะๆจากไวโอลิน

Eimlee  Violin


เพลง  price tag




เพลง  ฤดูที่แตกต่าง



เพลง  อยากหยุดเวลา




เพลง  ทะเลสีดำ




เพลง  ค่าน้ำนม




เพลง  ค้างคาวกินกล้วย




          ไวโอลิน  เครื่องดนตรีสากลเล็กๆ  สามารถถ่ายทอดบทเพลงได้อย่างหลากหลาย  ทั้งเพลงไทย  เพลงไทยสากล  และเพลงสากล  ในแต่ละบทเพลงก็มีความยากง่ายที่แตกต่างกัน  แต่ไม่ว่าจะเล่นฟังอะไรก็ไพเพราะทั้งนั้นค่ะ  เสียงไวโอลินนุ่มนวล  และก็ก้องกังวาลไปพร้อมๆกัน  ทำให้เข้าถึงอารมณ์ของบทเพลงนั้นๆได้อย่างง่ายดาย  อย่าลืมเวะมาฟังกันเยอะๆนะค่ะ  และจะนำเครื่องดนตรีชนิดๆมาโพสต์ลงไว้ให้ทุกคนได้รับฟังกันอีกแน่นอนค่ะ




สอนการเล่นกีต้าร์เบื้องต้น


มาดูการเล่นกีต้าร์ขั้นต้นกันเถอะ


ได้รับชมกันแล้ว  อยากลืมไปฝึกซ้อมกันนะคะ


อูคูเลเล่ เครื่องดนตรีน้องใหม่

Ukulele อูคูเลเล่





         ถ้าพูดถึงเครื่องดนตรีที่กำลังเริ่มเป็นที่นิยมในเมืองไทยเวลานี้ เห็นทีจะหนีไม่พ้นเจ้าเครื่องดนตรีรูปทรงละม้ายคล้ายกับกีตาร์แต่ขนาดเล็กกว่าที่เรียกว่า อูคูเลเล่ อย่างแน่นอน เพราะตอนนี้มันกำลังได้รับความสนใจในวงการดนตรีและนักดนตรีมือสมัครเล่นทั้งหลายอย่างมากมาย ด้วยเสียงอันไพเราะเหมือนกีตาร์แต่ทว่าพกพาได้ง่ายกว่า ที่สำคัญ ดูเหมือนว่ามันกำลังจะได้รับความนิยมแซงหน้ากีตาร์ในเร็ว ๆ นี้ซะด้วยสิ เอ้า! เมื่อได้รับความสนใจมากขนาดนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมจึงไม่พลาดที่จะเอาเรื่องราวของเจ้าเครื่องดนตรีชนิดนี้มาฝากกันค่ะ

          Ukulele (อูคูเลเล่) เป็นเครื่องดนตรีที่มีต้นกำเนิดมาจากฮาวาย ในช่วงคริสตศตวรรษที่ 19 หรือเมื่อประมาณ 150 ปีก่อน โดยเริ่มจากที่นักดนตรีโปรตุเกสคนหนึ่งที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมายังชายฝั่ง Hanolulu ของฮาวาย และหอบเอาเครื่องดนตรีคล้ายกีตาร์จิ๋วที่เรียกว่า Cavaquinho มาด้วย จนสร้างความสนใจให้กับชาวพื้นเมืองฮาวายเป็นอย่างมากในสมัยนั้น และในที่สุดก็ได้มีการดัดแปลงเครื่องดนตรีจากโปรตุเกสดังกล่าวให้กลายเป็น อูคูเลเล่ ใช้สำหรับให้ความบันเทิงและสนุกสนานในหมู่เกาะฮาวาย และมันก็ถูกนำไปใช้กันอย่างกว้างขวางในหมู่เกาะนับตั้งแต่นั้นมา จนเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1950 ได้มีการนำอูคูเลเล่ไปเล่นทั่วโลก และได้รับความนิยมอย่างมากมาย จึงทำให้อูคูเลเล่เปลี่ยนจากเครื่องดนตรีพื้นเมืองฮาวาย กลายมาเป็นเครื่องดนตรีสากลในที่สุด

          อูคูเลเล่ ได้รับความนิยมถึงจุดสูงสุดในช่วงปี 1960-1985 เมื่อมีนักดนตรีชื่อดังหลายคนนำเครื่องดนตรีชนิดนี้ไปประกอบเพลง เช่น เจค ชิมาบุคุโร, จอร์จ แฮร์ริสัน, ซารา วัตกินส์ เป็นต้น ทำให้หลาย ๆ คนสรรหาเครื่องดนตรีชนิดนี้มาไว้ในครอบครองบ้าง ด้วยความที่มันเป็นเครื่องดนตรีขนาดเล็ก พกพาได้สะดวก และมีเสียงนุ่มไพเราะเหมือนกับกีตาร์ อีกทั้งยังสามารถเล่นได้หลากหลายรูปแบบ อูคูเลเล่ จึงได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย


วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2556

วงออร์เคสตรา



                     เชิญรับชมบทเพลงเพราำๆจากวงออร์เคสตรา

เครื่องเล่นดนตรีสากลในแต่ละประเภท


เครื่องสาย (string instrument) เป็นการจัดประเภทของเครื่องดนตรีสากล โดยเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องสายนี้ หมายถึง เครื่องดนตรีที่ทำให้เกิดเสียงโดยการสั่นสะเทือนของสายลวด เชือก เอ็น หรือไนลอน และมีตัวกำธรเสียง ทำหน้าที่ขยายเสียงให้ดังมากขึ้น คุณภาพของเสียงขึ้นอยู่กับรูปร่าง และวัตถุที่ใช้ทำ การสั่นสะเทือนของสายอาจทำได้โดยการสี หรือดีดโดยอาจกระทำโดยตรง หรือเพิ่มกลไกให้ยุ่งยากขึ้น เครื่องสายที่พบเห็นในปัจจุบัน นิยมใช้วิธีทำให้เกิดเสียงได้ 2 วิธี คือ วิธีสี และวิธีดีด
1.) ใช้คันสี
   ( 1.1 ) ไวโอลิน (Violin) เครื่องดนตรีที่ใช้เล่นท่วงทำนอง ประกอบด้วยสาย 4 สาย แต่ละสายเทียบเสียงห่างกันคู่ 5 เพอร์เฟค คือ เสียง G-D-A-E

    ( 1.2 ) วิโอลา (Viola) มีรูปร่างเหมือนไวโอลินทุกประการ แต่มีขนาดใหญ่กว่าไวโอลิน ตั้งเสียงต่ำกว่าไวโอลินลงไปอีกคู่ 5 เพอร์เฟค คือ C-G-D-A มีเสียงทุ้มและนุ่มนวลกว่าไวโอลิน

    ( 1.3 ) เชลโล (Cello) มีรูปร่างเหมือนไวโอลินและวิโอลา แต่มีขนาดโตกว่ามาก ขณะเล่นต้องนั่งเก้าอี้ เอาเครื่องไว้ระหว่างขาทั้งสองข้าง เสียงต่ำกว่าวิโอลา 1 ช่วงคู่ 8 คือ C-G-D-A

    ( 1.4 ) ดับเบิ้ลเบส (Double Bass) เป็นเครื่องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูลไวโอลิน ผู้บรรเลงต้องยืนเล่น เสียงของดับเบิลเบส ต่ำสุดแสดงถึงความมีอำนาจ ความกลัว ความลึกลับ สายทั้งสี่ตั้งเสียงห่างกันเป็นคู่ 4 เพอร์เฟค คือ E-A-D-G

2. ) เครื่องดีด
    ( 2.1 ) ฮาร์พ (Harp) เป็นพิณโบราณขนาดใหญ่ มีประวัติเก่าแก่มาก มีสายขึงอยู่ทั้งหมด 47 สาย ช่วงเสียงกว้าง 6 Octaves ใช้บรรเลงในวงดนตรีประเภทออร์เคสตรา

    ( 2.2 ) กีต้าร์ (Guitar) กีตาร์ประกอบด้วยสาย 6 สาย โดยตั้งระดับเสียงต่ำไปหาสูง ในแต่ละสายดังนี้ E,A,D,G,B,E
    ( 2.3 ) ลูท (Lute) เป็นพิณชนิดหนึ่งที่เป็นต้นกำเนิดของเครื่องสายประเภทดีด มีรูปทรงเหมือนผลส้มผ่าซีก มีสะพานวางนิ้วที่มีช่องปรากฏอยู่ เช่นเดียวกับกีตาร์ แบนโจ แมนโดลิน ฯลฯ ชาวอาหรับโบราณนิยมกันมากแต่ปัจจุบันนี้ไม่ได้รับความนิยม

    ( 2.4 ) แมนโดลิน (Mandolin) เป็นเครื่องดนตรีตระกูลลูท มีสาย 4 คู่ (8สาย) หรือ 6 คู่ (12สาย) ตั้งเสียงเท่ากันเป็นคู่ มีลูกบิดคล้ายกีตาร์ใช้ในการตั้งเสียง และมีนม (Feat) รองรับสาย เวลาเล่นจะใช้นิ้วมือซ้ายจับตัวแมนโดลินและใช้มือขวาดีด

    ( 2.5 ) แบนโจ (Banjo) เป็นเครื่องดนตรีในตระกูลลูท จุดเริ่มต้นที่มีผู้นำมาเล่นอยู่ในแถบแอฟริกาตะวันตก (Western Africa) เป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านของพวกนิโกร ต่อมาจึงเป็นที่แพร่หลายในหมู่อเมริกันนิโกร วิธีการเล่นคล้ายกับกีตาร์

เครื่องเป่าลมไม้ (Woodwind Instruments) เป็นการจัดประเภทเครื่องดนตรีสากล โดยเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าลมไม้นี้ แม้ตัวของเครื่องดนตรี อาจทำจากวัสดุต่างๆ มากมาย แต่ส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดเสียง คือ ลิ้น (Reed) ซึ่งทำมาจากไม้ จึงได้ชื่อว่า เครื่องเป่าลมไม้นั่นเอง เครื่องเป่าลมไม้แบ่งได้อย่างกว้าง ๆ เป็น 2 ประเภทคือ
1.) ประเภทเป่าลมเข้าไปในรูเป่า (Blowing into a tube)
    ( 1.1 ) ประเภทเป่าตรงปลาย
             ( 1.1.1 ) ขลุ่ยรีคอร์เดอร์ (Recorder) เป็นเครื่องเป่าดนตรีสากลจัดอยู่ในประเภทเครื่องเป่าลมไม้ชนิดไม่มีลิ้น เป็นเครื่องดนตรีที่มีขนาดเล็ก โครงสร้างที่ไม่ซับซ้อน


    ( 1.2 ) ประเภทเป่าลมเข้าทางด้านข้าง
             ( 1.2.1 ) ฟลูต (Flute) เป็นเครื่องดนตรีที่เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่งที่มีพัฒนาการมาจากมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ที่คิดใช้กระดูกสัตว์หรือเขาของสัตว์ที่เป็นท่อกลวงหรือไม่ก็ใช้ปล้องไม้ไผ่มาเจาะรูแล้วเป่า ให้เกิดเสียงต่าง ๆ วัตถุนั้นจึงเป็นต้นกำเนิดของเครื่องดนตรีประเภทขลุ่ย ฟลูตเป็นขลุ่ยเป่าด้านข้าง มีความยาว 26 นิ้วมีช่วงเสียงตั้งแต่ C กลางจนถึง C สูงขึ้นไปอีก 3 ออคเทฟ เสียงแจ่มใสจึงเหมาะสำหรับเป็นเครื่องดนตรีประเภทเล่นทำนองใช้เลียนเสียงนกเล็ก ๆ ได้ดีและเสียงต่ำของฟลูตจะให้เสียงที่ นุ่มนวล

             ( 1.2.2 ) ปิคโคโล (Piccolo) เป็นขลุ่ยขนาดเล็กมีลักษณะเช่นเดียวกับฟลูตแต่เล็กกว่าทำมาจากไม้ หรืออีบอร์ไนท์ แต่ปัจจุบันทำด้วยโลหะ ยาวประมาณ 12 นิ้ว เสียงเล็กแหลมชัดเจน แม้ว่าจะเป่าเพียง เครื่องเดียว พิคโคโลเล่นได้ดีเป็นพิเศษโดยเฉพาะการทำเสียงรัว (Trillo) และการบรรเลงเดี่ยว (Solo)

2.) ประเภทเป่าลมให้ผ่านลิ้นของเครื่องดนตรี (Blowing through a reed)
    ( 2.1 ) ประเภทลิ้นเดี่ยว (Single reed)
             ( 2.1.1 ) คลาริเนต (Clarinet) เป็นเครื่องดนตรีที่รู้จักกันแพร่หลายกว่าเครื่องอื่น ๆ ในบรรดาเครื่องลมไม้ด้วยกัน คลาริเนตเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้ได้ในวงดนตรีเกือบทุกประเภท และเป็นเครื่องดนตรีที่สำคัญในวงออร์เคสตรา วงโยธวาทิต และวงแจ๊ส
             ( 2.1.2 ) แซกโซโฟน (saxophone) เป็นเครื่องดนตรีในตระกูลเครื่องลมไม้ ใช้ลิ้นเดี่ยวเหมือนของคลาริเนต แม้ว่าตัวเครื่องมักจะทำด้วยโลหะแต่สุ้มเสียงก็กระเดียดมาทางเครื่องลมไม้ แซกโซโฟนจึงได้รับฉายาว่า “คลาริเนตทองเหลือง” (brass clarinet)
    ( 2.2 ) ประเภทปี่ลิ้นคู่ (Double reed)
             ( 2.2.1 ) โอโบ (oboe) ที่ใช้ในปัจจุบันนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ใช้ในการแสดงโอเปร่าฝรั่งเศส เรียกว่า “Hautbois” หรือ “Hoboy” ในศตวรรษที่ 18 โอโบใช้เป็นเครื่องดนตรีหลักในวงออร์เคสตร้า เป็นเครื่องดนตรีเสียงสูงในกลุ่มเครื่องลมไม้ ซองในขณะนั้นมีรูปิดเปิดเพียง 2- 3 รูเท่านั้น ในศตวรรษที่ 19 โอโบได้พัฒนาในเรื่องระบบกลไก คีย์ กระเดื่อง สำหรับปิดเปิดรู เพื่อเปลี่ยนระดับเสียงให้เล่นสะดวกมากขึ้น จนในที่สุดโอโบ คือ เครื่องดนตรีหลักที่จะต้องมีใน วงออร์เคสต้า

             ( 2.2.2 ) บาสซูน (Bassoon) เป็นปี่ขนาดใหญ่ใช้ลิ้นคู่เช่นเดียวกับโอโบ รูปร่างของบาสซูนค่อนข้างจะประหลาดกว่าปี่ชนิดอื่น ๆ ได้รับฉายาว่าเป็น “ตัวตลกของวงออร์เคสตรา” (The Clown of the Orchestra) ทั้งนี้เพราะเวลาบรรเลงเสียงสั้น ๆ ห้วน ๆ (Staccato) อย่างเร็ว ๆ จะมีเสียงดัง ปูด…ปู๊ด… คล้ายลักษณะท่าทางของตัวตลกที่มีอากัปกริยากระโดดเต้นหยอง ๆ ในโรงละครสัตว์




ประเภทของเครื่องเล่นดนตรีสากล

เครื่องดนตรีสากล  แบ่งออกเป็น 5 ประเภทใหญ่ๆ
  1. เครื่องสาย (String Instruments)
  2. เครื่องลมไม้ (Woodwind Instruments)
  3. เครื่องลมทองเหลือง (Brass Instruments)
  4. เครื่องลิ่มนิ้ว (Keyboard Instruments)
  5. เครื่องกระทบ (Percussion Instruments)